26.The Poets
- ฏอ ซีน มีม
- เหล่านี้คือโองการทั้งหลายอันชัดแจ้ง
- บางทีเจ้า (มุฮัมมัด) เป็นผู้ทำลายชีวิตของเจ้า เพราะพวกเขาไม่เป็นผู้ศรัทธา
- หากเราประสงค์ เราจะให้มีสัญญาณหนึ่งจากฟากฟ้ามายังพวกเขา แล้วคอของพวกเขาก็ยอมก้มลมต่อมัน
- และไม่มีข้อตักเตือนใหม่ อันใดจากพระผู้ทรงกรุณาปรานี เว้นแต่พวกเขาจะผินหลังให้กับมัน
- แล้วแน่นอนพวกเขาได้ปฏิเสธ ดังนั้นข่าวคราวที่พวกเขาเคยเยาะเย้ยมันนั้นก็จะมายังพวกเขา
- พวกเขามิได้มองไปยังแผ่นดินดอกหรือว่ากี่มากน้อยแล้วที่เราได้ให้มันงอกเงยออกมาจากทุกชนิดที่ดีมีประโยชน์
- แท้จริงในการนี้ย่อมเป็นสัญญาณหนึ่งอย่างแน่นอน แต่ส่วนมากของพวกเขาไม่เป็นผู้ศรัทธา
- และแท้จริงพระเจ้าของเจ้านั้น แน่นอนพระองค์เป็นผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงเมตตาเสมอ
- และจงรำลึก เมื่อพระเจ้าของเจ้าทรงเรียกมูซาว่า จงไปยังหมู่ชนผู้อธรรม
- คือหมู่ชนของฟิรเอานฺพวกเขาไม่ยำเกรงดอกหรือ
- เขา (มูซา) กล่าวว่า โอ้พระเจ้าของฉันแท้จริงฉันกลัวว่า พวกเขาจะปฏิเสธไม่ยอมเชื่อฉัน
- และหัวอกของฉันจะอึดอัด และลิ้นของฉันจะไม่คล่อง ดังนั้นพระองค์ทรงโปรดส่งฮารูนมาช่วยฉันด้วยเถิด
- และพวกเขามีข้อกล้าวหาต่อฉัน ดังนั้นฉันกลัวว่าพวกเขาจะฆ่าฉัน
- พระองค์ตรัสว่า ไม่ดอก ดังนั้นเจ้าทั้งสองจงไปเถิดพร้อมด้วยสัญญาณทั้งหลาย ของเราแท้จริงเราอยู่กับพวกเจ้า เป็นผู้ฟัง
- ดังนั้นเจ้าทั้งสองจงไปหาฟิรเอานฺ แล้วจงกล่าวว่าเราเป็นทูตของพระเจ้าแห่งสากลโลก
- แล้วขอให้ส่งวงศ์วานของอิสรออีลไปพร้อมกับเราเถิด
- เขา (ฟิรเอานฺ)กล่าวว่า เรามิได้เลี้ยงดูเจ้าเมื่อขณะเป็นเด็กอยู่กับพวกเราดอกหรือ และเจ้าได้อยู่กับเราหลายปี ในช่วงชีวิตของเจ้า
- และเจ้าได้ทำการกระทำของเจ้าซึ่งเจ้าได้กระทำไปแล้ว และเจ้าเป็นผู้หนึ่งในหมู่ผู้เนรคุณ
- เขา (มูซา) กล่าวว่า ฉันได้กระทำมันโดยที่ฉันไม่รู้
- ดังนั้น ฉันได้หนีไปจากพวกท่าน เมื่อฉันกลัวพวกท่านแล้วพระเจ้าของฉันได้ทรงประทานฮิกมะฮฺแก่ฉัน และทรงแต่งตั้งฉันให้เป็นรอซูลคนหนึ่ง
- และนี่คือบุญคุณที่ท่านลำเลิกมันต่อฉันโดยท่านทำให้วงศ์วานอิสรออีลเป็นทาส
- ฟิรเอานฺได้กล่าวว่า และใครคือพระเจ้าแห่งสากลโลก
- เขา (มูซา) กล่าวว่า พระเจ้าแห่งชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดิน และสิ่งที่อยู่ในระหว่างทั้งสอง หากพวกท่านเป็นผู้ศรัทธาเชื่อมั่น
- เขาได้กล่าวแก่ผู้อยู่รอบ ๆ เขาว่า พวกท่านได้ยินไหม
- เขา (มูซา) กล่าวอีกว่า พระเจ้าของพวกท่าน และของบรรพบุรุษสมัยก่อน ๆ นั้นด้วย
- เขา (ฟิรเอานฺ)กล่าวว่า แท้จริงรอซูลของพวกท่านซึ่งได้ถูกส่งมายังพวกท่านนั้นเป็นคนบ้าอย่างแน่นอน
- เขา (มูซา) กล่าวว่า พระเจ้าแห่งทิศตะวันออกและทิศตะวันตก และสิ่งที่อยู่ในระหว่างทั้งสอง หากพวกท่านใช้สติปัญญาพิจารณา
- เขากล่าวว่า หากเจ้ายึดถือพระเจ้าอื่นจากฉัน ฉันจะให้เจ้าอยู่ในหมู่ผู้ต้องขัง
- เขา (มูซา) กล่าวว่า แม้ว่าฉันจะนำสิ่งที่ชัดแจ้งมายังท่านกระนั้นหรือ
- เขากล่าวว่า ก็จงนำมันมาซิ หากเจ้าเป็นคนจริง
- ดังนั้น เขาได้โยนไม้เท้าของเขา แล้วมันคือ งูอย่างชัดแจ้ง
- และได้ดึงมือของเขาออกมา แล้วมันก็เป็นสีขาวแก่บรรดาผู้มองดู
- เขาได้กล่าวแก่ขุนนางชั้นผู้ใหญ่รอบๆ เขาว่า แท้จริงเขาคนนี้คือนักเล่นกลอย่างช่ำชอง
- เขาต้องการที่ให้พวกท่านออกจากดินแดนของพวกท่านด้วยเล่ห์กลของเขา ดังนั้นพวกท่านจะชี้แนะประการใด
- พวกเขากล่าวว่า จงหน่วงเหนี่ยวเขาและพี่ชายของเขาไว้ก่อน และจงส่งคนไปตามหัวเมืองให้มาชุมนุมกัน
- เพื่อที่นักเล่นกลผู้ช่ำชองทุกคนจะได้มาหาท่าน
- แล้วบรรดานักเล่นกลได้มาชุมนุมกันตามวันเวลาที่กำหนดไว้
- และได้มีประกาศแก่มหาชน พวกท่านจะไปร่วมชุมนุมด้วยไหม
- เพื่อพวกเราจะได้ตามบรรดานักเล่นกลหากพวกเขาเป็นผู้ชนะ
- เมื่อพวกนักเล่นกลมาถึง พวกเขากล่าวแก่ฟิรเอานฺว่า พวกเราจะมีรางวัลแน่นอนหรือถ้าพวกเราเป็นผู้ชนะ
- เขากล่าวว่า ถูกแล้ว และพวกท่านขณะนั้นจะอยู่ในหมู่ผู้ใกล้ชิดอย่างแน่นอน
- มูซาได้กล่าวแก่พวกเขาว่า จงโยนซิสิ่งที่พวกท่านจะต้องโยน
- แล้วพวกเขาก็ได้โยนเชือกหลายเส้นของพวกเขาและไม้เท้าหลายอันของพวกเขา และพวกเขากล่าวว่า ด้วยเกียติยศของฟิรเอานฺแท้จริงเราเป็นผู้ชนะอย่างแน่นอน
- ครั้นแล้วมูซาก็ได้โยนไม้เท้าของเขา ณ บัดนั้นมันได้กลืนสิ่งที่พวกเขาได้ลองมันขึ้น
- พวกนักเล่นกลจึงก้มหัวลงกราบสุญูด
- พวกเขากล่าวว่า เราศรัทธาต่อพระเจ้าแห่งสากลโลก
- พระเจ้าของมูซา และฮารูน
- เขากล่าวว่า พวกท่านศรัทธาต่อเขาก่อนที่ฉันจะอนุญาตแก่พวกท่านกระนั้นหรือ แน่นอนเขาต้องเป็นหัวหน้าของพวกท่านซึ่งได้สอนการเล่นกลแก่พวกท่านแล้วพวกท่านจะรู้ แน่นอนฉันจะตัดมือของพวกท่านและเท้าของพวกท่านสลับข้างกันและแน่นอนฉันจะแขวนตรึงไว้ทั้งหมด
- พวกเขากล่าวว่า ไม่เป็นไรหรอกแท้จริงเรานั้นต้องเป็นผู้กลับไปยังพระเจ้าของเรา
- แท้จริงเราปรารถนาที่จะให้ พระเจ้าของเราทรงยกโทษให้แก่เรา เพราะเราเป็นกลุ่มแรกที่เป็นผู้ศรัทธา
- แลเราได้ดลใจให้มูซาออกเดินทาง ในเวลากลางคืนพร้อมกับปวงบ่าวของข้าแท้จริงพวกเจ้ากำลังถูกติดตาม
- แล้วฟิรเอานฺส่งคนไปตามหัวเมืองต่างๆ ให้มาร่วมชุมนุม
- (และว่า) แท้จริงเขาเหล่านั้นเป็นหมู่ชนส่วนน้อย
- และแท้จริงพวกเขาทำให้เราเกิดโทษะ
- และแท้จริงพวกเราทั้งหมดอยู่ในสภาพเตรียมพร้อม
- ดังนั้น เราได้ให้พวกเขา ออกจากเรือกสวนและลำธารน้ำ
- และทรัพย์สินอันมากมายหลายและที่พำนักอันโอ่อ่า
- เช่นนั้นแหละ และเราได้ให้วงศ์วานอิสรออีล ได้รับมรดกครอบครองมัน
- แล้วพวกเขา (ฟิรเอานฺ) ได้ติดตามพวกเขา (วงศ์วานอิสรออีล) เมื่อเวลาตะวันขึ้น
- ครั้นเมื่อแต่ละฝ่ายได้มองเห็นกัน พวกพ้องของมูซาได้กล่าวว่า แท้จริงเราถูกตามทันแล้ว
- เขา (มูซา) ได้กล่าวว่า ไม่หรอก แท้จริงพระเจ้าของฉันทรงอยู่กับฉัน พระองค์จะทรงขี้แนะทางแก่ฉัน
- ดังนั้นเราได้ดลใจมูซาว่า จงฟาดทะเลด้วยไม้เท้าของเจ้า แล้วมันก็ได้แยกออก แต่ละข้างมีสภาพเหมือภูเขาใหญ่
- และเราได้ให้พวกอื่น ให้เข้ามาใกล้ ณ ที่นั้น
- และเราได้ให้มูซาและผู้ที่อยู่ร่วมกับเขาทั้งหมดรอดพ้นไป
- แลเราได้ให้พวกอื่นจมน้ำตาย
- แท้จริงในการนั้นเป็นสัญญาณอย่างแน่นอน แต่ส่วนมากของพวกเขาไม่เป็นผู้ศรัทธา
- และแท้จริงพระเจ้าของเจ้านั้น แน่นอนพระองค์เป็นผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงเมตตาเสมอ
- และจงเล่าเรื่องราวของอิบรอฮีม ให้แก่พวกเขา
- ขณะที่เขากล่าวแก่บิดาของเขา และพวกพ้องของเขาว่า พวกท่านเคารพภักดีอะไร
- พวกเขากล่าวว่า เราเคารพภักดีรูปปั้นแล้วเราจะคงเป็นผู้ยึดมั่นต่อมันตลอดไป
- เขา (อิบรอฮีม) กล่าวว่า เมื่อพวกท่านวิงวอนขอ พวกมันได้ยินพวกท่านหรือ
- หรือมันให้คุณให้โทษแก่พวกท่านไหม
- พวกเขากล่าวว่า แต่เราได้พบบรรพบุรุษของเราปฏิบัติกันมาเช่นนั้น
- เขากล่าวว่า พวกท่านไม่เห็นดอกหรือสิ่งที่พวกท่านเคารพภักดีอยู่
- ด้วยตัวของพวกท่านเอง และบรรพบุรุษของพวกท่านแต่กาลก่อน
- แท้จริงพวกเขาคือศัตรูของฉัน นอกจากพระเจ้าแห่งสากลโลก
- ซึ่งพระองค์ทรงสร้างฉัน แล้วพระองค์ทรงชี้แนะทางแก่ฉัน
- และพระองค์ทรงประทานอาหารให้ฉันและทรงให้น้ำดื่มแก่ฉัน
- และเมื่อฉันป่วย ดังนั้นพระองค์ทรงให้ฉันหายป่วย
- และผู้ทรงให้ฉันตายแล้วทรงให้ฉันมีชีวิต
- และผู้ที่ฉันหวังว่า จะทรงอภัยแก่ฉันซึ่งความผิดพลาดในวันแห่งการตอบแทน
- ข้าแต่พระเจ้าของฉัน ขอพระองค์ทรงประทานความรู้และทรงให้ฉันอยู่รวมกับหมู่คนดีทั้งหลาย
- และทรงทำให้ฉันได้รับการรำลึกอย่างดีในหมู่ชนรุ่นต่อ ๆ ไป
- และทรงทำให้ฉันอยู่ในหมู่ผู้รับมรดกแห่งสวนสวรรค์อันร่มรื่น
- และทรงประทานอภัยให้แก่บิดาของฉันด้วย แท้จริงเขาอยู่ในหมู่ผู้หลงผิด
- และทรงอย่าให้ฉันได้รับความอัปยศในวันที่พวกเขาถูกให้ฟื้นคืนชีพ
- วันที่ทรัพย์สมบัติและลูกหลานจะไม่อำนวยประโยชน์ได้เลย
- เว้นแต่ผู้มาหาอัลลอฮฺด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์ผ่องใส
- และสวนสวรรค์จะถูกนำให้มาใกล้แก่บรรดาผู้ยำเกรง
- และนรกจะถูกเผยให้เห็นแก่บรรดาผู้หลงผิดคิดชั่ว
- และมีเสียงกล่าวแก่พวกเขาว่า ไหนเล่าที่พวกท่านเคารพภักดี
- อื่นจากอัลลอฮ์ พวกมันจะช่วยเหลือพวกท่าน หรือจะช่วยตัวมันเองได้ไหม
- แล้วพวกมันจะถูกโยนทิ่มหัวลงในนรกพวกมันและพวกหลงผิด
- และไพร่พลของอิบลีสทั้งหมด
- พวกเขากล่าวขณะที่พวกเขาโต้เถียงกันอยู่ในนั้น
- ขอสาบานต่ออัลลอฮฺ แท้จริงพวกเราอยู่ในการหลงผิดอย่างชัดแจ้ง
- ขณะที่พวกเราทำให้พวกเจ้าเท่าเทียมกับพระเจ้าแห่งสากลโลก
- และไม่มีผู้ใดทำให้พวกเขาหลงผิด นอกจากพวกอาชญากร เท่านั้น
- ดังนั้นจึงไม่มีผู้ไถ่โทษแก่เรา
- และไม่มีมิตรผู้รักใคร่ด้วย
- ฉะนั้น หากเราได้กลับไปสักครั้ง เราก็จะอยู่ในหมู่ผู้ศรัทธา
- แท้จริงในการนี้ ย่อมเป็นสัญญาณหนึ่งอย่างแน่นอน แต่ส่วนมากของพวกเขา ไม่เป็นผู้ศรัทธา
- และแท้จริงพระเจ้าของเจ้านั้น แน่นอนพระองค์คือผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงเมตตาเสมอ
- หมู่ชนของนูหฺ ได้ปฏิเสธบรรดารอซูล
- ขณะที่พี่น้องคนหนึ่งของพวกเขาคือ นูหฺได้กล่าวแก่พวกเขาว่า โอ้พวกท่านไม่ยำเกรงบ้างหรือ
- แท้จริงฉันคือรอซูลผู้ซื่อสัตย์สำหรับพวกท่าน
- ดังนั้นพวกท่านจงยำเกรงอัลลอฮฺ และเชื่อฟังฉัน
- และฉันมิได้ขอค่าตอบแทนในการนี้จากพวกท่าน ค่าตอบแทนของฉันมิได้มาจากผู้ใดนอกจากพระเจ้าแห่งสากลโลก
- ดังนั้นจงยำเกรงอัลลอฮฺเถิดและจงเชื่อฟังฉัน
- พวกเขากล่าวว่า จะให้พวกเราศรัทธาต่อท่านกระนั้นหรือ? ในเมื่อพวกต่ำต้อยเท่านั้นที่เชื่อฟังปฏิบัติตามท่าน
- เขา (นูหฺ) กล่าวว่า ฉันไม่มีความรู้อันใดเลยในสิ่งที่พวกเขาปฏิบัติกัน
- การตอบแทนของพวกเขามิได้อยู่ที่ผู้ใดเลยนอกจากที่พระเจ้าของฉัน หากพวกท่านมีความรู้สึก
- และฉันจะไม่เป็นผู้ขับไล่บรรดาผู้ศรัทธา
- ฉันมิใช่ใครอื่นนอกจากเป็นผู้ตักเตือนอันชัดแจ้ง
- พวกเขากล่าวว่า โอ้นูหฺ หากท่านไม่หยุดยั้งแน่นอนท่านจะอยู่ในหมู่ผู้ถูกขว้างด้วยก้อนหิน
- เขากล่าวว่า ข้าแต่พระเจ้าของฉัน แท้จริงหมู่ชนของฉันปฏิเสธฉัน
- ดังนั้นขอพระองค์ทรงตัดสินระหว่างฉันกับพวกเขาโดยยุติธรรมเถิด และทรงโปรดช่วยฉัน และบรรดาผู้ศรัทธาที่อยู่ร่วมกับฉันให้รอดพ้นด้วยเถิด
- ดังนั้นเราได้ช่วยเขาและผู้อยู่ร่วมกับเขาให้อยู่ในเรือที่เต็มเปี่ยม
- แล้วเราได้ให้พวกที่เหลืออยู่จมน้ำตาย
- แท้จริงในการนี้ย่อมเป็นสัญญาณหนึ่งอย่างแน่นอน แต่ส่วนมากของพวกเขาไม่เป็นผู้ศรัทธา
- และแท้จริงพระเจ้าของสูเจ้านั้น แน่นอนพระองค์เป็นผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงเมตตาเสมอ
- หมู่ชนของอ๊าดได้ปฏิเสธบรรดารอซูล
- ขณะที่พี่น้องคนหนึ่งของพวกเขาคือฮูดได้กล่าวแก่พวกเขาว่า โอ้พวกท่านไม่ยำเกรงบ้างหรือ
- แท้จริงฉันคือ รอซูลผู้ซื่อสัตย์สำหรับพวกท่าน
- ดังนั้นพวกท่านจงยำเกรงอัลลอฮ์ และเชื่อฟังฉัน
- และฉันมิได้ขอค่าตอบแทนในการนี้จากพวกท่าน ค่าตอบแทนของฉันมิได้มาจากผู้ใดนอกจากพระเจ้าแห่งสากลโลก
- พวกท่านสร้างอนุสาวรีย์ไว้บนที่สูงทุกแห่งเพื่อโอ้อวดกระนั้นหรือ
- และพวกท่านสร้างคฤหาสน์เสมือนกับว่าพวกท่านจะอยู่อย่างตลอดกาลกระนั้นหรือ
- และเมื่อพวกท่านทำร้าย (ผู้ใด) พวกท่านกระทำอย่างทารุณโหดร้าย
- ดังนั้นพวกท่านจงยำเกรงอัลลอฮฺ และเชื่อฟังฉัน
- และพวกท่านจงยำเกรงผู้ทรงประทานแก่พวกท่าน สิ่งซึ่งพวกท่านรู้ดีอยู่แล้ว
- พระองค์ทรงประทานแก่พวกท่านด้วยปศุสัตว์และลูกหลาน
- และสวนอันหลากหลาย และลำธารหลายแห่ง
- แท้จริงฉันกลัวว่าพวกท่าน จะได้รับการลงโทษในวัน อันยิ่งใหญ่
- พวกเขากล่าวว่า มีผลเท่ากันที่เรา ท่านจะตักเตือนหรือไม่เป็นผู้ตักเตือนเราก็ตาม
- นี่ไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากเป็นเรื่องโกหกในสมัยก่อน ๆ
- และพวกเราจะไม่อยู่ในหมู่ผู้ถูกลงโทษ
- พวกเขาได้ปฏิเสธไม่เชื่อฟังเขา ดังนั้นเราจึงทำลายล้างพวกเขา แท้จริงในการนี้ย่อมเป็นสัญญาณหนึ่งอย่างแน่นอน แต่ส่วนมากของพวกเขาไม่เป็นผู้ศรัทธา
- และแท้จริงพระเจ้าของเจ้านั้น แน่นอนพระองค์เป็นผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงเมตตาเสมอ
- หมู่ชนของซะมู๊ดได้ปฏิเสธบรรดารอซูล
- ขณะที่พี่น้องคนหนึ่งของพวกเขาคือศอและฮฺ ได้กล่าวแก่พวกเขา โอ้พวกท่านไม่ยำเกรงบ้างหรือ
- แท้จริงฉันคือรอซูลผู้ซื่อสัตย์สำหรับพวกท่าน
- ดังนั้นพวกท่านจงยำเกรงอัลลอฮ์ และเชื่อฟังฉัน
- และฉันมิได้ขอค่าตอบแทนในการนี้จากพวกท่าน ค่าตอบแทนของฉันมิได้มาจากผู้ใด นอกจากระเจ้าแห่งสากลโลก
- พวกท่านจะถูกปล่อยให้อยู่อย่างสงบปลอดภัย ณ ที่นี้หรือ
- ในสวนอันหลากหลาย และลำธารหลายแห่ง
- และไร่นา และต้นอินทผลัม ซึ่งกิ่งก้านของมันสุกงอม
- และพวกท่านสะกัดภูเขาเป็นที่อยู่อาศัยอย่างชำนาญ
- ดังนั้นพวกท่านจงยำเกรงอัลลอฮฺ และเชื่อฟังฉัน
- และอย่าเชื่อฟังคำสั่งใช้ของพวกฝ่าฝืน
- พวกที่บ่อนทำลายในแผ่นดิน และไม่เป็นพวกพัฒนา
- พวกเขากล่าวว่า แท้จริงท่านเป็นคนหนึ่งในหมู่ผู้ถูกอาคม
- ท่านมิใช่ใครอื่นนอกจากเป็นสามัญชนเช่นเรา ดังนั้นจงนำมาสักสัญญาณหนึ่ง หากท่านเป็นหนึ่งในหมู่ผู้สัตย์จริง
- เขากล่าวว่า นี่คืออูฐตัวเมียสำหรับมันดื่มน้ำวันหนึ่ง และสำหรับพวกท่านก็ดื่มน้ำวันหนึ่งที่รู้กัน
- และพวกท่านอย่าก่อความทุกข์ยากแก่มันมิฉะนั้นการลงโทษในวันอันยิ่งใหญ่จะคร่าพวกท่าน
- แล้วพวกเขาได้ฆ่ามัน พวกเขาจึงอยู่ในสภาพเป็นผู้เศร้าโศกเสียใจ
- ดังนั้นการลงโทษได้คร่าพวกเขาแท้จริงในการนี้ย่อมเป็นสัญญาณหนึ่งอย่างแน่นอน แต่ส่วนมากของพวกเขาไม่เป็นผู้ศรัทธา
- และแท้จริงพระเจ้าของเจ้านั้น แน่นอนพระองค์เป็นผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงเมตตาเสมอ
- หมู่ชนของลูฏได้ปฏิเสธบรรดารอซูล
- ขณะที่พี่น้องคนหนึ่งของพวกเขาคือลูฏได้กล่าวแก่พวกเขาว่า โอ้พวกท่านไม่ยำเกรงบ้างหรือ
- แท้จริงฉันคือรอซูลผู้ซื่อสัตย์สำหรับพวกท่าน
- ดังนั้นพวกท่านจงยำเกรงอัลลอฮฺ และเชื่อฟังฉัน
- และฉันมิได้ขอค่าตอบแทนในการนี้จากพวกท่าน ค่าตอบแทนของฉันมิได้มาจากผู้ใด นอกจากพระเจ้าแห่งสากลโลก
- พวกท่านเข้าหาผู้ชายในหมู่ผู้คนทั้งหลายกระนั้นหรือ
- และพวกท่านปล่อยทิ้ง สิ่งที่พระเจ้าของพวกท่านทรงบังเกิดมาสำหรับพวกท่าน คือภรรยาของพวกท่าน แน่นอนพวกท่านเป็นหมู่ชนผู้ฝ่าฝืน
- พวกเขากล่าวว่า โอ้ลูฏเอ๋ย หากท่านไม่หยุดยั้ง แน่นอนท่านเป็นผู้หนึ่งที่จะถูกขับไล่ให้ออกไป
- เขากล่าวว่า แท้จริงฉันเป็นผู้ที่เกลียดยิ่งต่อการกระทำของพวกท่าน
- ข้าแต่พระเจ้าของฉันขอพระองค์ทรงช่วยฉัน และบริวารของฉันให้พ้นจากที่พวกเขากระทำกัน
- ดังนั้นเราได้ช่วยเขา และบริวารของเขาทั้งหมดให้รอดพ้น
- นอกจากหญิงแก่คนหนึ่ง ซึ่งนางอยู่ในหมู่ผู้ถูกทำลาย
- แล้วเราได้ทำลายพวกคนอื่น
- และได้ให้ห่าฝนตกลงมาบนพวกเขาดังนั้นฝนของบรรดาผู้ถูกตักเตือนมันชั่วร้ายเสียนี่กระไร
- แท้จริงในการนี้ย่อมเป็นสัญญาณหนึ่งอย่างแน่นอน แต่ส่วนมากของพวกเขาไม่เป็นผู้ศรัทธา
- และแท้จริงพระเจ้าของสูเจ้านั้นแน่นอนพระองค์เป็นผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงเมตตาเสมอ
- ชาวป่าทึบได้ปฏิเสธบรรดารอซูล
- ขณะที่ชุอัยบฺได้กล่าวแก่พวกเขาว่า โอ้พวกท่านไม่ยำเกรงบ้างหรือ
- แท้จริงฉันคือรอซูลผู้ซื่อสัตย์สำหรับพวกท่าน
- ดังนั้นพวกท่านจงยำเกรงอัลลอฮฺและเชื่อฟังฉัน
- และฉันมิได้ขอค่าตอบแทนในการนี้จากพวกท่าน ค่าตอบแทนของฉันมิได้มาจากผู้ใด นอกจากพระเจ้าแห่งสากลโลก
- จงตวงให้ครบเต็มและอย่าเป็นผู้ที่ขาดพร่อง
- และจงชั่งด้วยตาชั่งอย่างเที่ยงตรง
- และอย่าให้ขาดพร่องแก่มหาชนซึ่งสิ่งต่าง ๆ ของพวกเขา และอย่าก่อกวนในแผ่นดินเป็นผู้บ่อนทำลาย
- และจงยำเกรงผู้ซึ่งบังเกิดพวกท่าน และประชาชาติสมัยก่อน ๆ
- พวกเขากล่าวว่า แท้จริงท่านเป็นคนหนึ่งในหมู่ผู้ถูกอาคม
- และท่านมิใช่ใครอื่นนอกจากเป็นสามัญชนเช่นเรา และเราคิดว่าท่านเป็นผู้กล่าวเท็จคนหนึ่ง
- ดังนั้นให้ส่วนต่างๆ จากท้องฟ้า หล่นลงมาบนพวกเรา หากท่านเป็นผู้สัตย์จริงคนหนึ่ง
- เขากล่าวว่า พระเจ้าของฉันทรงรอบรู้ดียิ่งในสิ่งที่พวกท่านกระทำ
- พวกเขาได้ปฏิเสธไม่เชื่อเขาดังนั้นการลงโทษแห่งวันเมฆครอบคลุมได้คร่าพวกเขา แท้จริงมันเป็นการลงโทษแห่งวันยิ่งใหญ่
- แท้จริงในการนี้ย่อมเป็นสัญญาณหนึ่งอย่างแน่นอน แต่ส่วนมากของพวกเขาไม่เป็นผู้ศรัทธา
- และแท้จริงพระเจ้าของเจ้านั้น แน่นอนพระองค์เป็นผู้ทรงเดชานุภาพ ผู้ทรงเมตตาเสมอ
- และแท้จริงมัน เป็นการประทานลงมาของพระเจ้าแห่งสากลโลก
- อัรรูหฺผู้ซื่อสัตย์ ได้นำมันลงมา
- ยังหัวใจของเจ้าเพื่อเจ้าจักได้เป็นผู้ตักเตือนคนหนึ่ง
- เป็นภาษาอาหรับอันชัดแจ้ง
- และแท้จริงมันมีอยู่ในคัมภีร์สมัยก่อนๆ
- และมันมิได้เป็นเครื่องหมายแก่พวกเขาดอกหรือว่า บรรดาผู้มีความรู้ของวงศ์วานอิสรออีลก็รู้ดีในเรื่องนี้
- และหากว่าเราประทานมันลงมาแก่บางคนในหมู่ชาวต่างชาติ
- แล้วเขาอ่านมันแก่พวกเขา พวกเขาก็จะไม่เป็นผู้ศรัทธาต่อมัน
- เช่นเดียวกับเราได้ให้มันเข้าไปในหัวใจของบรรดาผู้กระทำผิด
- พวกเขาก็จะไม่ศรัทธามันจนกว่าพวกเขาจะได้เห็นการลงโทษอันเจ็บปวด
- แล้วมัน จะมาหาพวกเขาอย่างกระทันหันโดยที่พวกเขาไม่รู้สึกตัว
- พวกเขาก็จะกล่าวว่าให้พวกเราได้รับการประวิงบ้างได้ไหม
- ทำไมพวกเขาจึงเร่งการลงโทษของเราอีกเล่า
- เจ้าไม่เห็นดอกหรือ หากเราให้พวกเขารื่นเริงไปอีกเป็นปี ๆ
- แล้วสิ่งที่พวกเขาถูกสัญญาไว้ ก็ได้เกิดขึ้นแก่พวกเขา
- สิ่งที่พวกเขาได้ถูกให้รื่นเริงนั้นจะไม่อำนวยประโยชน์อันใดให้แก่พวกเขา
- และเรามิได้ทำลายชาวเมืองใด เว้นแต่ได้มีผู้ตักเตือนแก่มันแล้ว
- เพื่อเป็นข้อตักเตือน และเรามิได้เป็นผู้อธรรม
- และพวกมารชัยฏอนมิได้นำมันลงมา
- และไม่เป็นการเหมาะสมแก่พวกมันและพวกมันก็ไม่สามารถด้วย
- แท้จริงพวกมันเป็นผู้กีดกัน อย่างแน่นอนจากการฟัง
- ดังนั้นเจ้าอย่าได้วิงวอนพระเจ้าอื่นใดคู่เคียงกับอัลลอฮฺ มิฉะนั้นเจ้าจะเป็นหนึ่งในหมู่ผู้ถูกทำโทษ
- จงตักเตือนวงศาคณาญาติของเจ้าที่ใกล้ชิด
- และจงลดปีก ของเจ้าแก่บรรดาผู้ศรัทธาที่ปฏิบัติตามเจ้า
- หากพวกเขาฝ่าฝืนเจ้า ก็จงกล่าวเถิดแท้จริงฉันขอปลีกตัวให้พ้นจากสิ่งที่พวกท่านปฏิบัติกันอยู่
- และจงมอบหมายต่อพระผู้ทรงเดชานุภาพผู้ทรงเมตตาเสมอ
- ผู้ทรงเห็นเจ้าขณะที่เจ้ายืนอยู่
- และการเคลื่อนไหวของเจ้าในหมู่ผู้สุญูด
- แท้จริงพระองค์คือผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงรอบรู้เสมอ
- ฉันจะบอกแก่พวกท่านไหมว่า พวกมารชัยตอนลงมาบนผู้ใด
- พวกมันลงมาบนทุกคนที่เป็นผู้โกหกผู้ทำบาปมาก
- พวกมันจะเงี่ยหูฟัง และส่วนมากพวกมันเป็นผู้โกหก
- และพวกกวีนั้น พวกหลงผิดจะปฏิบัติตามพวกเขา
- เจ้าไม่เห็นดอกหรือว่า แท้จริงพวกเขานั้นเร่ร่อนไปในทุกหนแห่ง
- และแท้จริงพวกเขานั้นพูดในสิ่งที่พวกเขาไม่กระทำ
- นอกจากบรรดาผู้ศรัทธาและปฏิบัติความดีทั้งหลายและรำลึกถึงอัลลอฮฺอย่างมาก และตอบโต้ป้องกันหลังจากที่พวกเขาถูกข่มเหง และบรรดาผู้อธรรมจะได้รู้ว่า ทางกลับอันใดที่พวกเขาจะกลับคืนสู่